สโนว์ไวท์ และคนแคระทั้ง 7 (Snowwhite and 7 Dwarfs)

.

จากบทประพันธ์ที่เราคุ้นเคยเพราะเป็นนิทานและการตูนที่ผ่าน ๆ ตากัน..ในเรื่องคงไม่มีอะไรมากไปกว่า ตัวเอกของเรื่องคือ สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้ง 7 คน…แต่ถ้าลองมองเข้าไปในเนื้อเรื่องดี ๆ จะเห็นว่า คนแคระทั้ง 7 คนนี้มีลักษณะ และการกระทำไม่เหมือนกันเลย…และในการตูนนั้น เอาจริง ๆ สโนว์ไวท์ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากร้องเพลงกับนอน เมื่อเทียบกับคนแคระที่ออกไปทำมาหากินและค่อยดูแลทุกอย่างในบ้าน… แต่หากเปรียบกับองค์กรนั้น..ก็น่าสนุกไปอีกแบบนะครับ..

.

คลังสินค้าเองก็เป็นองค์กรหนึ่งที่บริหารจัดการจัดส่งสินค้า.,,หากเปรียบกันแล้ว คนแคระเป็นของตัวเองเช่นกัน..

  1. คนแคระคน “แรก” และเป็นผู้ขับเคลื่อยงานภายในคลังคือ Operation หรือฝ่ายปฏิบัติการในคลัง คือทีมงานที่คอยจัดเตรียมส่งสินค้า
  2. คนแคระคนที่ “สอง” คือ Sale/Business Development หรือทีมขายนั่นเอง ทีมนี้มีหน้าที่รับความต้องการของลูกค้าและออกแบบรวมทั้งจัดแจงเข้าเสนอราคาประมูลและนำงานเข้าสู่บริษัท
  3. คนแคระคนที่ “สาม” คือ Finance หรือทีมบัญชี ผู้คอยตรวจสอบเงินตราเข้าออกบริษัท และตรวจสอบผลการดำเนินงานต่าง ๆ ในแต่ละส่วนของบริษัท ให้สอดคล้องและถูกต้อง
  4. คนแคระคนที่ “สี่” คือ IT หรือกระดูกสันหลังของคัลงผู้เป็นผู้ออกแบบและควบคุมระบบสารสนเทศภายในบริษัทให้สามารถจัดสินค้าและตรวจสอบการเคลื่อนไหวต่าง ๆ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการจัดการคลังสินค้า
  5. คนแคระคนที่ “ห้า” คือ Quality Assurance หรือเรียกสั้นว่า QA นั่นเอง บางที่อาจจะรวม Safety และ งานด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) เข้าไปด้วย เนื่องจากงานมาตรฐานต่างๆ ที่ QA เป็นคนควบคุมนั้น งานด้วนความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมก็อยู่ภายใต้การควบคุมนั้นด้วย และตัว QA เองก็ต้องควบคุมเพื่อให้งานภายในคลังสอดคล้องกับที่ระบุไว้ (เวลา Audit เค้าเรียกว่า “สอดคล้อง” นะครับ แต่จากที่เห็น เป็นการหาความไม่สอดคล้องที่คล้ายกับ “การจับผิด” เสียยิ่งกระไร)
  6. คนแคระคนที่ “หก” คือ Facility / Maintenance หรือ ฝ่ายอาคารและสถานที่ ที่คอยดูแลเรื่องแบบ สิ่งก่อสร้าง และการดูแลรักษาอาคารและอุปกรณ์ต่าง ๆ ของคลังสินค้า
  7. คนแคระคนที่ “เจ็ด” หรือคนสุดท้ายในขบวนการ สโนว์ไวท์นั้น คือ HR และ Purchasing ผมของรวม 2 ทีมเข้าด้วยกันนะครับ..เพราะบางที จัดรวมเข้าไปที่เดียวกันเลย..ทำงานช่วยเหลือกันไป…โดย HR คือ Human Resource ที่มีหน้าที่ ดูแลสอดส่องความเป็นอยู่ของ พนักงานในบริษัท ไม่ว่าจะ ด้านสวัสดิการ ความสุข และพัฒนาการของพนักงาน ส่วน Purchasing นั้นเป็นทีมงานจัดซื้อ ซึ่งเหมือนเป็นฝ่ายสนับสนุนให้การทำงานราบรื่น บนต่าใช้จ่ายที่เหมาะสมนะครับ..

.

เมื่อคนแคระทั้ง 7 ทำงานร่วมกันเป็นเรื่องเดียวกันแล้ว นั่นก็คือการทำงานของแต่ละคนเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประกอบการที่ดี ไม่ต่างจากคนแคระ ที่แต่ละวันก็เข้าเหมืองไปขุดเพชร แร่ธาตุ หรือทองมาขาย แต่เมื่อกลับถึงบ้านนั้น แต่ละคนก็มีหน้าที่ที่ต่างกันออกไป..ดังนั้นไม่ว่าหน้าที่ไหนก็สำคัญทั้งนั้น หากแต่ความสำคัญนั้น จะต้องสอดคล้องกันเพื่อให้องค์กรพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน….

.

แล้ว….สโนว์ไวท์หละคือใคร?????… จากที่กล่าวมาข้างต้นจริง ๆ แล้วเหมือนว่า สโนว์ไวท์จะไม่ได้ทำอะไรเท่าไหร่เลย..เพราะคนแคระทั้ง 7 ได้ทำไปแล้ว…แต่ผมขอเปรียบเทียบกับคนในองค์กรหรืองานคลังแล้วกันนะครับ ก็จะออกมาที่ ผู้บริหารนั่นเอง…แล้วผู้บริหารหละมีหน้าที่อะไรในองค์กร……มองจากภายนอกบอกได้เลยครับว่า คุณจะรู้สึกว่า ผู้บริหารนี่ทำงานง่ายเลย สั่งๆๆๆๆๆๆๆ อย่างเดียว..แต่เชื่อเถอะครับว่าไม่ได้ง่ายแบบนั้นหรอกครับ ทั้งเรื่องการตัดสินใจที่เฉียบขาด กำหนดทิศทางบริษัท..ความใจเย็นที่ต้องมาคอยจัดการลูกน้องแต่ละทีม…การแบกรับความเสี่ยงขององค์กรไว้เมื่อภัยมา….ลองเทียบดีๆนะครับ สโนว์ไวท์ก็มีเรื่องแบบนี้ให้จัดการนะครับ หากมองให้ลึก ๆ แล้ว สโนว์ไวท์อยู่บ้านคนแคระในแต่ละวัน กว่าจะกำหราบคนแคระทั้ง 7 ให้ไม่ทะเลาะกัน ก็ปวดหัวแล้ว แถมยังต้องเป็นตัวนำของเนื้อเรื่องซึ่งมองอีกมุมนึงคือการนำพาบริษัทไปต่อในทิศทางของตน รวมทั้งรับความเสี่ยงก่อนคนอื่น…คือแม่มดคงไม่มานั่งเอาแอปเปิ้ลให้คนแคระกิน เพราะคนแคระไม่ได้มีผลต่อทิศทางของอะไรบางอย่างนะจริงไหมครับ…

.

ผมเคยฟังคุณ “ตัน” อิชิตัน เล่าในทอร์คโชว์ของเขาว่า..การทำงานแต่ละตำแหน่งก็เหมือนนาฬิกาบนข้อมือของเรานี่เอง..(นาฬิกาแบบมีเข็มนะครับ) คือมีเข็มทั้งสิ้น 3 เข็ม…เข็มวินาที เข็มนาที เข็มขั่วโมง…เวลาเข็มวินาทีมันเดินไปนั้นครบ 1 รอบ เข็มนาทีจะขยับ 1 ช่อง และเมื่อเข็มวินาทีเดินครบ 3,600 รอบ เข็มนาทีก็จะครบ 60 ช่อง เข็มชั่วโมงก็จะขยับ 1 ช่วง เลยทีเดียว…นั่นหมายความว่า ทุกกลไกในคลังสินค้าหรือองค์กรนั้นมีผลหมด หากทุกคนตั้งใจทำงาน ความก้าวหน้าก็เกิดขึ้น หากเปรียบเป็นฝ่ายปฏิบัติการ (Operation) สามารถจัดการรับส่งทุกวัน ทำงานสม่ำเสมอ..หัวหน้างาน ซึ่งก็คือเข็มนาทีก็สามารถยื่นส่งผลงานที่ดีให้แก่ฝ่าบริหารหรือเข็มชั่วโมงได้ว่องไว เข็มชั่วโมงก็จะขยับได้ไวขึ้น เวลาที่วิ่งไปขององค์กรก็จะเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว…ดังนั้น อย่าดูถูกหน้าที่ของตัวเอง ให้เรารู้หน้าที่ของเราและทำให้ดีที่สุด เมื่อผลงานที่ออกมาดีนั้นเกิดขึ้นเป็นประจักษ์แล้วนั้นก็จะพบว่า..ความเจริญก้าวหน้าแกองค์กรจะเกิดขึ้นเอง และทุกคนในองค์กรก็จะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน…(อย่ามองแต่โบนัสนะครับ ความมั่นคงขององค์กรก็สำคัญจนถึงขั้นอาจจะสำคัญกว่าโบนัสนะครับ)

.