ความสำเร็จของการทำงานคลังนั้น มีส่วนประกอบหลักสำคัญหลายประการ ทั้งอุปกรณ์จัดเก็บ ระบบจัดการคลังสินค้า และอื่นๆอีกมากมาย แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดคงไม่พ้น พนักงานทุกๆคนในคลังสินค้า.. เพราะไม่ว่าระบบจะเทพแค่ไหน หากบุคลากรในคลัง ไม่มีความชำนาญในการใช้ระบบแล้ว สักวัน ระบบก็จะถูกแทนที่ด้วยการทำงานแบบขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ ของกองไว้ไม่มีใครดูแลติดตาม..
.
ดังคำว่าความรู้และวินัย (Knowledge and Discipline ) ในเรื่องเกี่ยวกับการทำงานในคลังเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้พนักงานสามารถทำงานได้ดี และส่งผลต่อ ผลงานของผู้ให้บริการคลังสินค้า…แต่เชื่อไหมครับจากการทำงานที่ผ่านมานั้น ประสบการณ์ของผมสอนครับว่า ไม่ใช่เพียงแค่ ความรู้และวินัยเท่านัน หากแต่ปัญหาที่ผมเจอประจำของคนคลังคือ..
.
พนักงานติดเงินกันเป็นทอดๆ, ติดหวยกันงอมแงม, เดินโพยบอล โพยหวยกันเป็นว่าเล่น เป็นต้นนะครับ ทุกๆ เดือนมันต้องมีวันที่ ประสิทธิผลของการทำงานตกฮวบ (Productivity decreasing)
.
คำถามครับ ทำไมคนคลังทั้งหลายถึงทำกิจกรรมพวกนี้จนไม่สนใจงานของตัวเอง ( อย่าว่าแต่คนคลังเลยครับ..) รู้ไหมครับ คำตอบที่ผมได้คือ “ไม่มีเงินใช้” ครับ
.
คำตอบช๊อคโลกสำหรับผมเลยครับ ไม่ได้ช๊อคเพราะแปลกใหม่นะครับ แต่ช๊อคเพราะเพิ่งเข้าใจว่าทำไมคนคลังทั้งหลายถึงทำงานแบบขอไปทีบ้าง เช้าชามเย็นชามบ้าง ทำงานส่งๆ บ้าง แบ่งพรรคพวกบ้าง… เพราะมันมีเบื้องหลังคือ คนคลังเหล่านี้จะต้องเอาตัวรอดให้ได้จากเจ้าหนี้ทั้งหลาย รวมทั้งมองหาว่าจะเอาอะไรกินไปวันๆ…
.
แต่ที่หนักกว่านั้นคือ แล้วทำไมถึงต้องหาเงินเยอะๆ มาเพื่อยาไส้….คำตอบก็สวนกันตรงๆตัวเลยครับ.. เรา ประเทศเรา แทบจะไม่ได้สอนเรื่องการวางแผนการเงินให้แก่ประชาชนในประเทศของเราเลย… ก็นั่นสิครับ บัตรเครดิตได้ง่าย… แต่น้องๆ พนักงานยังไม่รู้เลยครับว่าบัตรเหล่านี้ไว้ทำอะไร..รู้แต่ว่าถ้าใช้แล้วจะได้ของมาก่อนและจ่ายทีหลัง..ก็ได้ทั้งต้นและดอกมาเป็นผลลัพธ์ แล้วก็แก้กันด้วยการหาเงินมาแก้ ..ปัญหาเกี่ยวกับเงินมันแก้ด้วยความรู้ทางด้านการเงินไม่ใช่การเอาเงินไปแก้…จริงมั้ยครับ
.
เรื่องการเงินนี้ผมคงไม่ไปต่อไกลกว่านี้นะครับ เพราะตอนนี้มีผู้สอนเรื่องความฉลาดทางการเงินเยอะมาก ทั้งสอนเพื่อให้เรารอด หรือสอนเพื่อหลอกไปลงทุนนะครับ… แต่ผลของการเงินขาดมือ หรือขาดสภาพคล่องนั้น…มันทำให้น้องๆ เสีย “สมาธิ” อย่างรุนแรงมากนะครับ…
.
ผมยังคงเชื่ออยู่ว่าหากเราแก้ถูกจุดจริงๆ.. ผลการทำงานจะออกมาดี.. แต่ต้นเหตุที่ผมเจอจากชีวิตจริงคือเรื่องการวางแผนการเงินนั้น มันดูไม่ง่ายเอาเสียเลย ทั้งใกล้ตัว ทั้งพูดยาก..ก็คงได้แต่ฝากไว้ว่า..ใช้การวิเคราะห์ตามหลักสูตรของเมื่อ 2500 กว่าปีก่อนมาแก้ไขปัญหานี้ได้ครับ..
.
ปัญหาเชิงปัจเจก ต้องแก้ที่ตัวเรานะครับ… มองกลับมาที่ตัวเราก่อนว่าเราทุกข์ตรงไหน (ทุกข์) และมองกลับไปหาเหตุแห่งทุกข์ (สมุทัย) จากนั้นลองจินตนาการนิดนึงว่า เราจะเป็นยังไงถ้าเราไม่มีทุกข์นั้น (นิโรธ) สุดท้าย หาทางทำให้ผลที่เราต้องการเกิดขึ้นได้ (มรรค) อย่ามองว่าอริยสัจสี่เป็นของเก่านะครับ ใช้ได้เสมอครับ..
.
ลองมองน้องในทีมดีๆนะครับ ว่าเจอปัญหาแบบที่ผมเคยเจอไหม ถ้าใช่ แล้วเราพอจะมีความรู้ แบ่งปันเพื่อให้เขารู้จักแก้ปัญหาทางการเงินรวมทั้งมอบอนาคตที่เขาจะได้รับจากความพยายามของเขานะครับ..มันไม่ได้ช่วยแค่ทำให้ผลการทำงานของคลังดีขึ้นหรอกครับ…แต่จะมองได้ถึงการทำให้ชีวิตและประเทศชาติดีขึ้นด้วยครับ…