การวางสินค้า (Storage) ตอนที่ 9

.

เมื่อวาง Drive In Rack หรือ Selective Rack ในพื้นที่ และจะให้เคลื่อนที่แบบสั่งได้ตามที่ต้องการหรือเร่งให้เร็วกว่าที่จะไหลตามปกตินั้นก็จะมีหลายวิธีเช่น หาอุปกรณ์ไปยกออกมาจาก Drive In Rack หรือจะ หาเครนไปเทียบข้างช่องเก็บของ Selective Rack แล้วส่งเครื่องมือยกไปสอดด้านใต้แล้วยกมาใส่เครน แล้วเครนก็ลากออกมาส่งด้านนอกพื้นที่เก็บสินค้าเพื่อส่งมอบให้กับการทำงาน..

.

หลักการง่าย ๆ แต่เข้าใจยาก เพราะ หากคุณเคยออกแบบคลังสินค้าที่ไม่มีระบบอัตโนมัติ คุณจะเผื่อระยะรูปแบบหนึ่ง แต่หากคุณทำคลังแบบอัตโนมัติ จะต้องเผื่อการระยะของสิ่งต่าง ๆ อีกแบบหนึ่ง ดังนั้นหากจะออกแบบให้ดี คงต้องไปดูแบบของอุปกรณ์ต่าง ๆ อีกครั้ง เพื่อเทียบเคียง..ที่สำคัญ เมื่อก่อนเราอาจจะออกแบบเพื่อให้รถ RT วิ่งให้สั้นที่สุด แต่ปัจจุบันเราต้องออกแบบให้ทางวิ่งของเครนยาวที่สุด เพื่อลดจำนวนเครนลง และเพิ่มจำนวนช่องหยิบให้แก่เครนมากขึ้น ทำให้คลังเปลี่ยนรูปแบบไปเยอะ รวมทั้งการจัดเตรียมสินค้าเพื่อรอส่งนั้นก็จะใช้พื้นที่น้อยลงเพราะหากสามารถจัดเรียง-สั่งเบิกได้ง่ายขึ้นแล้วนั้นจะพบว่าบริษัททำงานแบบ 24 ชม ง่ายกว่าการทำงานแค่กะเช้าเพียงอย่างเดียว เพื่อลดประตูขนสินค้าและปริมาณค่าล่วงเวลา (OT) ลงได้ อย่างเห็นได้ชัดนะครับ

.

ดังนั้นหากคุณเป็นผู้ผลิตที่ต้องการประหยัดพื้นที่จัดเก็บ มีความต้องการจัดเก็บสินค้าที่มากขึ้น และใช้งานอุปกรณ์พวกนี้เป็นเวลานาน ๆ นั้น เมื่อเลือกใช้ไปแล้ว ณ วันนี้อาจจะใหม่ แต่ในอนาคตอาจจะเก่า หากแต่เอาจริง ๆ แล้วนั้น พบว่า การลงทุนที่ทำลงไปนั้นคุ้มค่ามาก ๆ ในระยะยาว และการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดเก็บที่พลิกโฉมนั้นไม่ได้เกิดทุก ๆ 10 ปีแน่นอน ใช้จนคุ้มแล้วขายยังเหลือเงิน…แต่หากเป็นธุรกิจกลุ่มให้บริการจัดเก็บและจัดจ่ายสู่ปลายทางนั้นต้องดูเรื่อง Contact term มากๆ และละเอียดรอบคอบครับ หากพลาดไปทีไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอันนี้เรื่องใหญ่ครับ

.

ปัจจุบันนี้บริษัททำ Rack ในประเทศไทยได้เปิดรับเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งสร้างระบบเอง หรือ จะเป็นการร่วมงานกันระหว่างบริษัทไทยกับต่างชาติ..ดังนั้นมีให้เลือกมากมายถือเป็นโอกาสอันดีที่จะศึกษาผลได้ผลเสียจากระบบอัตโนมัติเหล่านี้นะครับ

.

ขอจบซีรี่ย์เรื่องการจัดเก็บไว้เท่านี้นะครับ หากมีตัวอย่างดี ๆ ผมจะเอามาแชร์ให้ดูนะครับว่า มีอะไรใหม่ ๆ ให้เรียนรู้ครับ ส่วนเรื่องถัดไปน่าจะเอาระบบขับเคลื่อนที่ฮิตใช้กันมาให้ได้อ่านกันต่อนะครับ

.

ผมไปเจอวีดีโอดี ๆ จากลิงค์นี้ครับ

Elite Storage Solutions LLC / https://www.youtube.com/watch?v=r4ekwTShuyo

Schafer: https://www.youtube.com/watch?v=4HWppMe06WQ

ชัดเจนดีครับ ดูแล้วเข้าใจง่ายเลย ตั้งแต่การสร้างพื้นที่จัดเก็บจนกระทั้งตั้ง Rack จนเสร็จสิ้นครับ และยังมีรูปแบบการเคลื่อนที่แบบ Motion Camera นะครับ เพื่อเพิ่มความเข้าใจมากที่สุดนะครับ….ในอนาคตเราคงจะได้เห็นคลังใหม่ ๆ มีทรงสูงมากขึ้น และเปลี่ยนจากแนวหน้าคลังกว้าง ลานเข้าออกเยอะ กลายเป็นคลังยาว ๆ ครับ

.

การวางสินค้า (Storage) ตอนที่ 8

.

จะว่าไปแล้วเรื่อง Automation ที่กำลังไล่เล่าให้ฟังอยู่นั้น บางทีอาจจะมีมุมมองว่า จะต้องใช้ “ไฟฟ้า” เท่านั้น แต่ความจริงแล้วการสรรค์สร้างอุปกรณ์การทำงานที่อัตโนมัติ แบบนี้มีมานานแล้ว โดยใช้วัตถุสิ่งหนึ่งคือ “ลูกกลิ้ง” และ “แผ่นเลื่อน” เพื่อให้สินค้าเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายที่ต้องการ

.

ลองนึกถึง Drive In Rack นะครับ ปกติเราจะต้องขับรถตักเข้าไปวางสินค้าในรองที่เตรียมไว้ แต่ถ้าหากว่าเราเอาลูกกลิ้งไปใส่ในรางหละครับ และเอียงแนวรางนิดหน่อย ในระดับที่พาเลทสามารถไหลลงมาเองได้ จะพบว่า พาเลทจะไหลไปอีกฟากหนึ่งของ Rack ได้ทันที Rack ประเภทนี้เราเรียกว่า “Flow Rack” หากว่า สินค้ามีน้ำหนักเบา ก็อาจจะไม่ใช้ลูกกลิ้งแต่ใช้เป็นแทบเลื่อนคลายสายพานแล้วมีมอเตอร์ไปขับเคลื่อน ก็จะพบว่าสินค้าก็สามารถไหลไปได้เหมือนกันนะครับตามทิศทางที่กำหนด…

.

ส่วนอีกแบบคือ อีกแบบคือ การใช้แผ่นเลื่อนรองพาเลท และสามารถไหลต่อไปอีกทางได้ หากว่าไหลไปอีกทางก็เรียก Flow Rack แต่หากว่า ไหลเข้า แล้วเวลาตักพาเลทออกจากจุดที่ใส่พาเลทเข้าไป แล้วพาเลทถัดไป ไหล “กลับ” มาแทนที่ อันนี้เรียกว่า Push Back Rack นะครับ…ใช้กันแบบต่างกรรมต่างวาระครับ..Flow Rack ใช้พื้นที่ เยอะกว่า Push Back เพราะสินค้าจะเข้าออกคนละทาง แต่ Push Back สินค้าจะเข้าออกทางเดียวกัน ซึ่งความแตกต่างนี้เองจะต้องรู้ก่อนว่า Batch Size ใหญ่แค่ไหนครับ หากว่า ใหญ่มากและควบคุมได้ก็เลือกได้เลยครับว่าจะเอาสะดวกหรือประหยัดที่ ถ้าเอาสะดวกก็ Flow Rack ถ้าพื้นที่น้อยก็ Push Back Rack นะครับ

.

พื้นที่ในการจัดเก็บเท่ากับ Drive In Rack เลยครับ หากแต่จะต้องลงทุนเพิ่มเติม…แล้วมันมีประโยชน์กว่า Drive In Rack จนถึงขั้นต้องลงทุนไหม..มองในแง่จำนวนพาเลทที่ได้ก็ไม่เท่าไหร่ครับ แต่หากมองเรื่องความปลอดภัยในการทำงานด้วยหละก็ ถือว่าเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างคุ้ม เพราะพื้นที่จัดเก็บด้านใน Rack ไม่ค่อยช้ำ เพราะไม่มีใครเข้าไปชน…แต่เรื่องความวุ่นวายในการจัดการหากจะต้องหยิบพาเลทด้านในก็คงวุ่นวายไม่ต่างจาก Drive In Rack ครับ

.

จากการใช้งาน หากเราย่อขนาดของ Flow Rack ลงก็จะนำไปประยุกษ์ใช้กับการทำงานระดบัคนหยิบได้นะครับ ด้วยการนำกล่องมาไหลแทนพาเลท และลดขนาดลง ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและความจุของการหยิบสินค้า แนวโน้มในอนาคต หากต้องการประหยัดพื้นที่จัดเก็บ และทำอะไรให้ง่าย Drive In Rack ที่ผ่านการประยุกษ์ก็จะตอบโจทย์เป็นอย่างมากเพราะสามารถลดการเคลื่อนที่จากการแรงงานภายในคลัง, ค่าเช่าพื้นที่, ไฟฟ้าแสงสว่าง..ดังนั้นหากพบแล้วว่าใช้งานได้ อย่าพลาดโอกาสลองศึกษาและนำไปใช้นะครับ

.