เรียงฐาน วางสูง (Product TiXHi)

บางครั้งเรื่องง่าย ๆ บางเรื่องในคลังเราอาจไม่เคยรู้และมองข้ามในทันทีก็มีนะครับ วันนี้ขอยกตัวอย่างเรื่อง การเรียงสินค้าบนพาเลท (Palletize)  พาเลทนั้นอาจะมีหลายขนาด แต่การวางสินค้าบนพาเลทคือการจัดสินค้าให้สอดคล้องกันระหว่าง กว้างยาวสูง (TiXHi), น้ำหนักทั้งหมดที่พาเลทและพื้นที่จัดเก็บวางได้ (Load Limited)

.

การเรียงสินค้านั้น เริ่มจากจุดที่สำคัญมาก่อนคือ พื้นที่จัดเก็บมีขนาด น้ำหนักทั้งหมดใน 1 พาเลท, กว้างยาวสูงเท่าไหร่ และต้องเผื่อระยะยกของรถตักสินค้า ตัวอย่างเช่น ช่องวางบน Rack กว้าง 2300 mm (2.30 m) ลึก 1050 mm (1.05m) ช่องเก็บสูง 1750mm (1.75 m) หากเราจะออกแบบว่าควรว่างยังไงก็ จัดไปครับ พาเลทกว้าง 1000mm วางได้ 2 พาเลท เว้นระหว่างพาเลท 100mm (10 cm) และ วางด้านลึก 1200mm (1.20m) แต่ส่วนสูงนั้น ต้องคิดที่กล่องสินค้าด้วยว่าจะวางเรียงยังไง….สรุปแล้วคือ ลองวางให้สามารถนำสินค้าเข้าช่องได้….(ลองดูจากภาพนะครับ จะเข้าใจง่ายขึ้น)

.

เรื่องการ ออกแบบอาจจะยาว แต่เรื่องการใช้งานจริงยาวกว่าที่คิดนะครับ เพราะ หากว่าออกแบบผิดหรือระบุจำนวนการเรียงผิด จะส่งผลอีกหลายอย่างมากครับ… เช่น การนำสินค้าเข้ามาเติม จะช้า จะเร็ว มันอยู่ตรงนี้ครับ…ถามว่าทำไม..เพราะในช่องหยิบสินค้า (pickface) นั้น เราจะระบุว่า สินค้าจะต้องมีกี่กล่อง แล้วเราจะจัดเรียงให้เหมาะสม (โดยจำนวนที่ต้องการใช้ได้มาจากยอดขายในแต่ละวันของลูกค้านั้นเอง…) จากนั้น เทียบกับความเป็นจริงว่าจะต้องใส่เท่าไหร่ เช่น แต่ละวันต้องการสินค้า A จำนวน 50 ลัง และบนพาเลทสามารถวางได้ 25 ลัง นั่นแสดงว่า เราจะต้องมีพื้นที่หยิบสินค้า 2 ช่อง หากมีแค่ช่องเดียว ก็ต้องเติม (Replenishment) 2 รอบต่อวัน ถ้าการเรียงสินค้ามันไม่สอดคล้องเช่น  24 ลังต่อหนึ่งพาเลท ก็ต้องเติมแล้วนำพาเลทสุดท้ายกลับไปเก็บ 1 ชิ้นที่เหลือบนแต่ละพาเลทมารวมกันเพื่อรอจ่ายเมื่อถูกส่งมาจนครบ ยาวเลย…

.

แล้วรู้ไปแล้วได้อะไร..คงต้องบอกว่า การทำงานของคลังสินค้า จะให้ไว เร็ว มีประสิทธิภาพ นั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกที่จะวางสินค้าแบบไหนครับ…นั่นเอง เชื่อไหมครับ บางคลังไม่ได้คิดเรื่องการเรียงบนพาเลท (TiXHi) นั้น ถึงขั้นจ่ายงานออกไม่ได้เลยทีเดียว..

 

การออกแบบจึงสำคัญมาก แต่ปัญหาใหญ่ที่พบคือ เมื่อทำงานร่วมกันนั้นกับไม่มีระยะ กว้าง ยาว สูง ของกล่องสินค้า เหมือนผู้ผลิตไม่ได้ระบุไว้….พอไม่ได้ระบุก็ต้องประมาณ  ประมาณผิดแล้วนำไปใช้ การวางสินค้าก็จะแปลกๆทันทีเพราะมันวางแล้วมันไม่ล้นจากที่ต้องใช้ ก็ขาดตลอดเวลา…ส่งผลถึงกันหมดครับ…

.

เป็นที่น่าตกใจมากนะครับว่า ทำไมผู้ผลิตในไทยหลายราย ยังไม่มีขนาดของสินค้า หรือไม่อัพเดทข้อมูล…ดังนั้น เวลาออกแบบมันจึงทำได้ยากมาก ๆ แล้วผลกระทบ ก็จะเริ่มเข้าสู่วงจรที่ร่ายมานานคือ

  1. เรียงของยังไงดี
  2. จะต้องเติมจำนวนเท่าไหร่
  3. หยิบงานไม่ทัน เพราะรอการเติมสินค้า
  4. พื้นที่ในอากาศใช้ไม่คุ้มค่า, Rack จะใช้งานไม่พอกับที่ออกแบบ เป็นต้น

มองในภาพรวมแล้วอาจจะต้องคิดร่วมกันทั้งหมดว่า จะทำอย่างไรให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวสินค้าแม่นยำ และสามารถทำงานได้ดีขึ้นอีกเยอะเลยนะครับ ไม่ใช่แค่เพื่อการทำงานภายในคลัง แต่เป็นการทำงานของแผนกขนส่งด้วยครับ

.

การบันทึกอย่างมีระบบ จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่ดีรวมทั้งคุ้มค่ากับเงินที่ใช้ในการดำเนินงานและการลงทุนมากที่สุดสำหรับทุกฝ่าย…ข้อมูลที่ดีมีคุณค่าเสมอครับ..