.
ถ้าตามหนังสือ คงจะต้องบอกว่า ที่จัดเก็บสินค้าเพื่อจัดจำหน่ายจ่ายแก่ปลายทางที่ต้องการ แต่ผมคิดว่า ผมอยากจะอธิบายให้ลึกและเข้าใจง่าย พร้อมทั้งให้เห็นถึงความสำคัญของคลังสินค้านะครับ..
.
จริง ๆ แล้วเวลาเราจะจัดส่งสินค้าไปหาร้านค้าหรือปลายทาง ถ้าลองจินตนาการไปในอดีต จะพบว่า โรงงานเองนั้น ก็ส่งสินค้าไปยังร้านค้าโดยตรงเนื่องจากปริมาณการค้าขายที่มีจำนวนไม่มาก แต่ด้วยปริมาณความเจริญที่เพิ่มขึ้น เวลาที่จำกัด พื้นที่ที่ลดลงของร้าน การจัดส่งสินค้าด้วยวิธีเดิม ๆ ก็ค่อนข้างจะตอบสนองได้ยาก รวมทั้งผู้เล่นรายใหญ่ที่ส่งสินค้าให้ร้านก็มีปริมาณมากขึ้นตามความเจริญของสภาพเศรษฐกิจครับ.. เมื่อจำจะต้องส่งของให้ถึงมือลูกค้าให้ตรงเวลา หรือส่งเข้าโรงงานให้สอดคล้องกับสายการผลิตนั้น..การจะผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการ จึงเป็นโจทย์ที่ยากมากสำหรับผู้หลิตหรือนำเข้าทั้งหลาย ดังนั้นจึงต้องมีช่องว่างระหว่างกันให้พอหมุนนั่นนี่ไปมาและจัดส่งได้ด้วย…ก็เลยเอาสินค้าเข้ามาเก็บไว้ในคลังก่อน…
.
คลังก็มีหลายแบบนะครับ ทั้งคลังสินค้า เก็บอาหาร เครื่องอุปโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร ของแช่แข็งทั้งหลาย…จะเก็บสั้นๆแล้วรีบกระจาย หรือจะเก็บไว้เป็นปี แล้วค่อยๆ กระจายออกไป..แต่ที่สำคัญคือการวางแผน..ว่าสินค้าจะอยู่นานแค่ไหน หรือสินค้ากระจายยังไง..
.
ขั้นตอนในการทำงานของคลังหละมีอะไรบ้าง..หลัก ๆ หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่า รับสินค้าเข้า และจ่ายสินค้าออก…แต่ยังมีอีกครับ..ทั้งการรับสินค้าคืน คัดแยกสินค้า ติดสติ๊กเกอร์ตามความต้องการของลูกค้า จัดกะเช้าของขวัญวันปีใหม่ กะจุ๊กกะจีก ทั้งหลาย..ทำกันหมดทุกอย่าง เพราะจะปล่อยในสินค้ามาอยู่เฉย ๆ ก้ดูจะเสียเวลาเปล่า ๆ ไป…
.
ทุกอย่างก็ดูจะเรียบง่าย จริง ๆ ก็คือการเอางานบางส่วนออกจากการผลิตมาทำ ทั้งการจัดเก็บและการเพิ่มมูลค่า (Value Added Service) แต่มีคำพูดของผู้บริหารชื่อดังของไปรษณีย์เยอรมัน ท่านกล่าวไว้ว่า ในอนาคต ธุรกิจคลังสินค้าจะหายไปจากระบบการจัดส่ง…ฟังแล้ว ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้นะครับ มันก็พอจะมีสัญญาณให้เห็นในช่วงเวลาที่ท่านพูดอยู่ เช่น การที่โรงงานเริ่มลดกำลังการผลิตเนื่องจาก ความแม่นยำในการวางแผนการขายที่แม่นยำขึ้น, การเกิดขึ้นของผู้ประกอบการรายย่อย..เป็นต้น…
.
แต่เท่าที่สังเกตโลกก็ไม่เคยหยุดหมุนเช่นเคยครับ..การแพร่กระจายและเข้าถึงของเวบ Alibaba นั้น ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไม่เว้นแม้แต่คลังสินค้า..ก็ถูกเปลี่ยนรูปแบบไปพอควรเลยครับ เช่น เน้นการถ่ายผ่านสินค้าไปยังปลายทางอย่างรวดเร็วขึ้น..ความพร้อมที่จะขึ้นลงสินค้าให้แก่รถขนส่งแต่ละประเภท ผู้เล่นหลักในตลาดก็เปลี่ยนไป..จากคำพูดของผู้บริหารไปรษณีย์เยอรมันนะครับ..ผมว่า คลังสินค้าก็ยังคงมีอยู่ แต่ว่าการรองรับความต้องการคงเปลี่ยนไปแบบที่เราเองก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน…
.
การทำงานในสายนี้มันก็แปลกนะครับ ไม่เน้นเป็นหุ่นยนต์ซะทีเดียว แต่เน้นพลิกแพลงให้สามารถจัดการสินค้าได้..คนคิดเอาตรงนี้มาทำเงินได้..เป็นการขายการเคลื่อนไหล (Transaction) ล้วน ๆ จริง ๆ ครับ จนมีคำติดปากว่า จับเสือมือเปล่าครับ..แต่เชื่อเถอะครับ ปืนกระสุน กับดักใช้หมดเลยครับ ใช้มือเปล่าคงจับไม่ไหว…555
.
เหมือนเรื่องเล่าไปเรื่อย ๆ นะครับ แต่แค่อยากมาเล่าให้อ่านดูครับ ว่ามุมมองของผมเป็นแบบนี้ มุมมองของคุณหละ มองคลังสินค้าเป็นยังไงในตอนนี้ ต่างวาระ ต่างภาพที่มองเห็น..